จิตแพทย์ แนะขั้นตอนทำ “สมาธิ” เป็นยาคลายเครียด ใช้นับจำนวนลมหายใจเข้าออก ชี้ฝึกประจำ15นาที วันละ2 ครั้ง ช่วยจิตใจสงบเบิกบาน อารมณ์เย็น สมองแจ่มใส ป้องกัน 6 โรค
นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ กล่าวว่า จากสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีการสื่อสาร ล้วนก่อความเครียดให้ประชาชนได้ง่ายการคลายเครียดมีหลายวิธีที่ได้ผล เช่น การออกกำลังกาย แต่ประชาชนบางคนอาจไม่สะดวก หรือมีข้อจำกัดต่างๆ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ จึงมีข้อแนะนำให้ใช้วิธีการฝึกทำสมาธิ ซึ่งเป็นการผ่อนคลายความเครียดที่ลึกซึ้งที่สุด มีรูปแบบที่ง่าย สามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง ทำที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องไปทำที่วัด สามารถทำได้ทุกอิริยาบถ ไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ ผู้ที่กำลังนอนป่วยก็ทำได้ หลักสำคัญของการทำสมาธิ คือ การเอาใจไปจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว วิธีที่แนะนำ คือ การนับลมหายใจของตัวเองเป็นหลัก และยุติการคิดเรื่องอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง การทำสมาธิจะช่วยให้จิตใจสงบปลอดความคิดฟุ้งซ่าน ความกังวล เศร้า โกรธ ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียด
พญ.อรภา เข็มทอง จิตแพทย์และหัวหน้ากลุ่มงานสนับสนุนและพัฒนาเครือข่าย รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ กล่าวว่า วิธีการฝึกสมาธิโดยการนับลมหายใจมีเพียง 3ขั้นง่ายๆ ดังนี้
1.ให้นั่งหรือนอน แล้วหลับตา เพื่อตัดสิ่งรบกวนทั้งหมด หายใจเข้า-ออกช้าๆ พร้อมนับลมหายใจเข้า-ออก คือ ลมหายใจเข้านับ 1 หายใจออกก็นับ1,หายใจเข้านับ 2 หายใจออกก็นับ 2 นับไปเรื่อยๆ ลักษณะเดียวกันจนถึง5แล้วให้เริ่มนับ1ใหม่ นับไปจนถึง6แล้วกลับมาเริ่มนับ1ใหม่ และเพิ่มจำนวนไปถึง 10 เมื่อครบ 10 ถือเป็น 1 รอบ แล้วจึงเริ่มนับ 1 ใหม่ ไปจนถึง 10 และทำซ้ำๆกัน จนใจสงบและนิ่งขึ้น โดยผู้ที่เริ่มฝึกครั้งแรก อาจจะนับเลขผิดพลาดได้ เนื่องจากอาจยังไม่มีสมาธิพอหรืออาจจะมีความคิดอื่นๆ ผุดขึ้นมาระหว่างนับลมหายใจ ไม่ต้องกังวลใจ ขอให้พยายามตั้งสติใหม่ ประการสำคัญเมื่อมีความคิดแทรกขึ้นมาขอให้รับรู้และปล่อยไป ไม่เก็บมาคิดต่อ สมาธิจะดีขึ้น
2.เมื่อใจสงบมากขึ้นแล้ว ให้เริ่มนับลมหายใจเข้า-ออกเร็วขึ้นไปอีกและต่อเนื่องกัน คือหายใจเข้านับ 1 หายใจออกนับ 2 หายใจเข้านับ 3 หายใจออกนับ 4 ไปจนถึง 10 และ ขั้นที่ 3 หากนับลมหายใจเข้า-ออกได้เร็วและไม่ผิดพลาด แสดงว่าจิตใจสงบมากแล้ว
3.ให้ใช้สติมารับรู้รับลมหายใจเข้า-ออก เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องนับเลข และไม่คิดเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่เรื่องสงบเท่านั้น
“หากเราฝึกสมาธิเป็นประจำ โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที วันละ 2 ครั้ง คือเช้าและเย็นหรือก่อนนอน จะทำให้จิตใจเราสงบ เบิกบาน อารมณ์เย็น สมองแจ่มใส หายเครียด จนตัวเองและคนใกล้ชิดรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งการฝึกสมาธิได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก มีงานวิจัยยืนยันตรงกันว่ามีผลดีต่อร่างกายและจิตใจ ช่วยทำให้จิตสงบ โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟินส์ (Endorphins) หรือสารแห่งความสุขออกมา ช่วยให้ระบบประสาทสมองทำงานเป็นระเบียบ การทำงานของอวัยวะมีประสิทธิภาพดีขึ้น สามารถป้องกันการเกิดโรคที่มีความสัมพันธ์กับความเครียด ได้อย่างน้อย6โรค ได้แก่ โรคซึมเศร้า โรคอัลไซเมอร์ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยความเครียดจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารทุกข์คืออดรีนาลิน (Adrenalin) ทำให้หลอดเลือดตีบตัว มีผลทำให้หัวใจต้องเต้นเร็วและแรงขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกาย ผลวิจัยในต่างประเทศพบว่าภาวะจิตใจที่เครียดเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ถึง1ใน3” พญ.อรภากล่าว
ที่มา: www.thaihealth.or.th
ลิ้งข่าว: https://bit.ly/2ML8ElW