โรคเวลาไม่พอใช้ (not enough time syndrome)

stock-photo-vector-illustrations-of-busy-concepts-running-out-of-time-106546625

ทำไม 24 ชั่วโมงเท่ากัน ถึง ไม่เท่ากัน !!

ต้องย้อนกลับมาดู ว่าเราบริหารเวลากันอย่างไร

ทำอย่างไรเราจึงจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่ามากที่สุด

ลองมาดูหลักการบริหารเวลาแบบง่ายๆ กัน

จัดลำดับความสำคัญ

1. การจัดลำดับ (Prioritization) เพื่อทำเรื่องสำคัญก่อน

เลือกให้ชัดเจนว่า อะไรสำคัญกว่า เช่น เปลี่ยนจากพูดว่า  
 
“…ฉันไม่มีเวลาออกกำลังกายเลยเพราะงานยุ่งมาก”  เป็น  
 
…ฉันไม่ออกกำลังกายเพราะฉันให้ลำดับความสำคัญของการมีสุขภาพดีไว้ต่ำกว่าการดูทีวีอ่าน
 
หนังสือพิมพ์และท่องเน็ต”
 
 
2. ความตั้งใจจะทำมากเกินไป (Overscheduling)
 
พูดถึงความโลภอย่างทำอะไรมากเกินไป ใครๆ ก็เป็น แต่ควรทำใจได้ว่าหากเป็นเรื่องที่จัดลำดับ
 
ความสำคัญไว้ต่ำกว่าเรื่องอื่น ถึงเวลาแล้วไม่ได้ทำ ก็ต้องทำใจ 
 
 
3. การใช้ชีวิตอย่างไร (How to live your life)
 
ตรงนี้เป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่สุด การบริหารเวลาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต กลวิธีดำเนินชีวิต
 
เป็นส่วนที่สำคัญยิ่งกว่า  “เครื่องมือ” ที่จะใช้ดำเนินชีวิตให้มันไปได้ดีเหลือไว้ใช้จริงทุกวันนี้
 
แค่ 7 อย่าง คือ
 
 
เครื่องมือที่ 1. การเลือกจังหวะหยิบเครื่องมือ 
 
บางจังหวะ เราต้องใช้เครื่องมืออย่างหนึ่งไปต่อกร แต่บางจังหวะ เราต้องใช้เครื่องมืออีกอย่างหนึ่ง 
 
 
 
เครื่องมือที่ 2. ความรู้ตัว (self awareness) 
 
หมายถึงการคอยบอกตัวเองเสมอว่าเรากำลังอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวนี้นะ being here and now 
 
ถ้าไม่รู้จะไปตั้งหลักที่ไหน ตั้งหลักที่ลมหายใจเข้าออก ตรงนี้เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด เครื่องมือนี้ช่วย
 
ไม่ให้เสียเวลาไปเพ้อเจ้อกับอดีตและอนาคตมากเกินไป  
 
 
 
เครื่องมือที่ 3. ความกล้าหรือความอึด (bravery) 
 
ความกล้านี้ความรวมถึงความอึดที่จะลุยดุ่ยๆๆไปโดยไม่สนใจใครจะว่าอะไรด้วย
 
 
 
เครื่องมือที่ 4. การรู้จักเป็นปลื้ม (pride) กับชีวิต
 
เมื่อมองไปรอบตัว มันมีหลายสิ่งหลายอย่างมากที่เราควรจะเป็นปลื้มกับมัน บางครั้งเป็นเรื่องเล็กๆ
 
เช่น ปลูกดอกไม้แล้วมันออกดอก มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่ทำให้มีพลังที่จะเดินไปข้างหน้าได้อีก
 
อย่างไม่รู้เหนื่อย   
 
 
 
เครื่องมือที่ 5. การผ่อนคลายตัวเอง (relax)
 
หมายถึงการรู้จักนั่งลงเอนหลังพิงพนักเพื่อทำใจให้ว่างๆสบายๆสักครู่ แบบที่ฝรั่งเรียกว่า 
 
lay back ทริกอันนี้เวอร์คที่สุดในขณะที่เรากำลังเผชิญกับอะไรที่ร้ายแรงและต้องต่อกรแบบถึงเลือด
 
ถึงเนื้อถึงพริกถึงขิง
 
 
เครื่องมือที่ 6. การจดจ่อ (focus) 
 
การทำทีละอย่าง และจดจ่อกับอะไรเพียงอย่างเดียว เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพดีกว่า โดยเฉพาะในวัย
 
ที่สมองเริ่มเสื่อมถอยแล้ว   ทำไปทีละอัน ทำอันแรกให้หมดก่อนแล้วค่อยไปทำอันที่สอง ขณะที่ทำ
 
อันแรกก็จดจ่ออยู่กับอันแรกเท่านั้น ไม่ต้องคิดถึงอันถัดไป เสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น 
 
 
เครื่องมือที่ 7. ช่างแม่..ม (Let it be) 
 
ไม่ได้หมายความว่าทำอะไรแล้วคิดจะเลิกทำก็เลิกทำกลางคันโดยไม่แคร์   แต่เครื่องมืออันนี้
 
เอาไว้ใช้กับเรื่องที่อยู่นอกเขตอำนาจการควบคุมบังคับ อย่างเช่นนิสัยขับรถไม่ดีของคนขับรถคน
 
อื่นบนถนน อย่างนี้เป็นต้น 
 
 
การใช้ชีวิตด้วยเครื่องมือทั้ง 7 อย่างนี้ บวกกับการรู้จักเรียงว่าอะไรสำคัญไม่สำคัญแล้วเลือกทำเรื่อง
 
สำคัญก่อน บวกกับการไม่โลภจะทำหลายอย่างมากเกินเวลาที่มี เป็นคำแนะนำที่คิดอาจเอาไป
 
ประยุกต์แก้ปัญหาเวลาไม่พอใช้ได้ครับ